นายสำราญ สาราบรรณ์ รักษาการแทน อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร บอกว่าหลังเปิดให้เกษตรกรขึ้น ทะเบียนผู้ปลูกข้าวนาปี หลังจากปลูกไปแล้ว15วัน โดยจะมีคณะกรรมการไปตรวจสอบพื้นที่ปลูกข้าวของชาวนาว่าปลูกข้าวจริง
ซึ่งมีผู้ปลูกข้าวนาปีกว่า4,220,000ครัวเรือนได้ลงทะเบียน และผ่านการพิจารณาข้อกำหนดของรัฐอยู่ที่ 4,058,000 ครัวเรือน พื้นที่54ล้านไร่
โดยทางกรมส่งเสริมการเกษตรได้ส่งรายชื่อที่ผ่านการพิจารณา ให้ธ.ก.ส.หรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรแล้ว ซึ่งทางธ.ก.ส.ได้เริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือดังกว่าแล้ว ขณะนี้จ่ายไปกว่า2,400ล้านบาทแล้ว
โดยข้อกำหนดไร่ละ1,500 บาท โดยช่วยเหลือต่อครัวเรือนไม่เกิน12ไร่ หรือคิดเป็นเงินอยู่ที่ครัวเรือนละ18,000บาท
โดยเกษตรกรสามารถตรวจสอบสิทธิของตัวเองได้ตามเวลาราชการที่สำนักงานการเกษตรอำเภอในพื้นที่การเกษตรของท่าน และติดตามขั้นตอนการจ่ายเงินได้ที่ธ.ก.ส. ในพื้นที่ของท่านซึ่งเป็นการช่วยเหลือของภาครัฐที่เล็งเห็นการทำเกษตรกรรมนาข้าวที่มีค่าใช้จ่ายในการทำนาสูงและขายได้ราคาไม่มากไม่น้อย
โดยที่แบกรับภาระต้นทุนการผลิตหลายๆอย่าง โดยค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวก็สูงขึ้นเพราะมีการใช้นวัตกรรมใหม่ๆอย่างเช่นรถเกี่ยวข้าวในการเก็บเกี่ยวซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวข้าวได้เร็วแต่ค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าจ้างรถเกี่ยวและค่าน้ำมันชาวนาก็ต้องแบกรับไว้ด้วย ทางภาครัฐเลยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตรงจุดนี้เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระให้กับเกษตรกรที่ได้ทำการลงทะเบียนและแจ้งสิทธิ